โดราเอมอน (ญี่ปุ่น: ドラえもん Dora'emon โดะระเอะมง ?) เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 22 เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 (ค.ศ. 2112) ลักษณะตัวอ้วนกลมสีฟ้า (เมื่อแรกเกิดมามีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อโดราเอมอนมาคือเซวาชิเหลนชายของโนบิตะ วันหนึ่งเซวาชิเกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้กลับไปในอดีตด้วยไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่าโนบิตะ (ผู้เป็นปู่ทวด) เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอมอนย้อนเวลาไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้งโดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋าสี่มิติ
โดราเอมอนเคยได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของทวีปเอเชียและในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 มาซาฮิโกะ คามูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้แต่งตั้งให้โดราเอมอนเป็นทูตสันถวไมตรีอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของประเทศ โดยนับเป็น "ทูตแอนิเมชัน" ตัวแรกของประเทศญี่ปุ่นและโดราเอมอน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 อย่างเป็นทางการ
แรงบันดาลใจ
ตัวละครโดราเอมอนนั้น ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เนื่องจากนักวาดการ์ตูนทั้ง 2 ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้ลงโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาทั้งสองไว้ว่าจะมีตัวเอกที่ออกมาจากลิ้นชัก ในนิตยสารการ์ตูนฉบับต้อนรับปีใหม่ แต่ในความจริงแล้วทั้งสองยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งต้นฉบับก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก
ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ หนึ่งในนักวาดการ์ตูน ได้เผอิญเห็นแมวจรจัดที่มักแอบเข้ามาเล่นที่บ้านของตนเองเป็นประจำ เขามักจะชอบจับแมวตัวนี้มาหาหมัด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 4.00 น. ก็ยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องใหม่ ทำให้ฮิโรชิโมโหตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดเลยเถิดไปว่าโลกนี้น่าจะมีไทม์แมชชีน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต หลังจากนั้นฮิโรชิได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้เขาตกใจว่าตนเองเผลอหลับไป จึงรีบวิ่งลงจากบันไดบ้านไปสะดุดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นของลูกสาวที่ตกอยู่บนพื้น
เหตุนี้เองทำให้ฮิโรชิเกิดไอเดียขึ้นโดยนำหน้าแมวจรจัดมาผสมกับตุ๊กตาญี่ปุ่น สร้างออกมาเป็นตัวละครหุ่นยนต์แมวจากอนาคตคอยช่วยเหลือเด็กชายที่แสนจะไม่ได้เรื่อง และตั้งชื่อว่า โดราเอมอน เป็นคำผสมระหว่าง "โดราเนโกะ" กับ "เอมอน" ในภาษาญี่ปุ่น โดราเนโกะนั้นแปลว่าแมวหลงทาง ส่วนคำว่า "เอมอน" เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนของประเทศญี่ปุ่น
ต้นกำเนิด

แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 (พ.ศ. 2665)เซวาชิได้ใช้หุ่นยนต์หนูแก้รูปปั้นที่จะให้โดราเอมอนแต่หุ่นยนตหนูเข้าใจว่าให้แก้ที่หูของโดราเอมอน ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" (ノラミャー子) แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอรู้ว่าโดราเอมอนไม่มีหู เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่โดราเอมอนหยิบผิดกลายเป็นดื่มยาโศกเศร้าแทน ทำให้เขาโศกเศร้ากว่าเดิม และร้องไห้ไม่หยุดอยู่ริมชายหาด 3 วัน 3 คืน จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียดกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก
นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดเรมี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ
ข้อมูลจำเพาะของโดราเอมอน
เป็นความตั้งใจของผู้วาดการ์ตูนที่ใช้ตัวเลข 129.3 กับตัวละครนี้ โดราเอมอนจึงมีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเลขชุดนี้
- มีน้ำหนัก 129.3 กิโลกรัม
- ความสูง 129.3 เซนติเมตร (แต่เวลานั่ง จะเหลือ 100 เซนติเมตร)
- กระโดดได้สูง 129.3 เซนติเมตร (เวลาเจอหนู)
- มีพละกำลัง 129.3 แรงม้า
- วัดรอบหัว รอบอก รอบเอวได้ 129.3 เซนติเมตร
- วิ่งปกติในระยะ 50 เมตรใช้เวลา 15 วินาที แต่ถ้าเจอหนูจะวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- วันที่ผลิตคือ ปีที่ 2112 เดือน 9 วันที่ 3 (เรียงแบบปฏิทินญี่ปุ่น)
ส่วนประกอบในร่างกาย

เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์แมวที่ผลิตขึ้นในอนาคตคือคริสต์ศตวรรษที่ 22 ตามจินตนาการของผู้แต่ง ส่วนประกอบในร่างกายของโดราเอมอนจึงเต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง(แต่จะเสียแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทำให้โดราเอมอนมีราคาถูกมาก) ซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- หัว โดราเอมอนเป็นหุ่นยนต์แมวที่มีการติดตั้งชิปคอมพิวเตอร์ในหัว ทำให้มีความรู้สึกนึกคิด สามารถพูดภาษามนุษย์ (ภาษาญี่ปุ่น) และพูดภาษาแมวได้ แต่ภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่น และภาษาสัตว์อื่นๆ จะฟังไม่รู้เรื่อง จึงต้องพึ่ง "วุ้นแปลภาษา"กับ "หูฟังภาษาสัตว์" แทนอีกทั้งยังสมองไม่ไวเท่าที่ควร เวลาคำนวณเลขยากๆ จึงต้องใช้กระดาษทดหรือเครื่องคิดเลขช่วย นอกจากนี้ หัวของโดราเอมอนยังแข็งราวกับหิน ซึ่งเขาถือว่าเป็นอาวุธลับขั้นสุดท้ายของตัวเอง โดยสามารถเอาหัวโขกจนประตูพังได้ และวิ่งกระโจนเอาหัวพุ่งใส่แทงค์แก๊ส(ที่ทำจากโลหะผสมชนิดพิเศษ) จนแทงค์เป็นรูเสียหาย (แต่ตนเองก็หมดสติไปเลยเช่นกัน)
- ใบหน้า ใบหน้าของโดราเอมอน มีลักษณะเป็นทรงกลม จมูกกลมสีแดง และมีหนวด 6 เส้น ดูคล้ายกับแมว แต่คนอื่นๆ มักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นทานูกิ หรือแรคคูน ซึ่งโดราเอมอนจะไม่พอใจทุกครั้งที่ถูกเรียกแบบนั้น
- จมูก มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีแดง เหมือนกับปลายหาง รับรู้กลิ่นได้ไวกว่ามนุษย์ 20 เท่า แต่ปัจจุบันชำรุด จึงสามารถดมกลิ่นได้เท่าจมูกคนเท่านั้น
- หนวด มี 6 เส้น เป็นหนวดเรดาร์ สามารถจับวัตถุระยะไกลได้ แต่อยู่ระหว่างรอซ่อมแซม
- ร่างกาย ผิวหนังเป็นโลหะผสมพิเศษต้านแรงดึงดูด ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถจับเกาะได้ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูง แม้อยู่ในอวกาศหรือใต้ทะเลลึกก็ไม่เป็นปัญหาโดนของเหลวคล้ายกรดสาดใส่ก็ไม่ละลายแต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างเช่นกัน คือ แพ้อากาศร้อนและแพ้อากาศหนาว จนถึงขั้นเป็นหวัดได้หากโดนไฟฟ้าช็อตก็จะเสียหายและพอกินอะไรเข้าไปจะกลายพลังงานทั้งหมด
- มือ รูปร่างกลมสีขาวไม่มีนิ้วมือ จึงไม่สามารถเล่นพันด้ายและเป่ายิ้งฉุบได้ เล่นบาร์โหนก็ไม่ถนัดแต่สามารถดูดจับสิ่งของได้ทุกอย่าง
- ปาก ปากขนาดกว้าง สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยจะเปลี่ยนเป็นพลังงานปรมาณูโดยมีเตาปฏิกรณ์อยู่ที่ส่วนกระเพาะ ภายในปากจะมีฟันที่เรียกว่า "ฟู้ดคัตเตอร์" ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะเวลาที่โดราเอมอนโกรธจนต้องยิงฟันเท่านั้น แต่ในตอนพิเศษ "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006" โดราเอมอนกลับถูกวาดให้มองเห็นซี่ฟันอย่างชัดเจน
- กระพรวน ไว้ห้อยคอ มีสีเหลือง ส่วนสายคาดมีสีแดง เมื่อสั่นกระพรวนจะสามารถเรียกแมวที่อยู่ใกล้เคียงมาชุมนุมกันได้ โดยจะปล่อยคลื่นเสียงพิเศษ แต่ตอนนี้ใช้งานไม่ได้ปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่เพื่อใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กแทน
- กระเป๋าหน้าท้อง เป็นกระเป๋าสี่มิติ ไว้สำหรับเก็บของวิเศษ พื้นที่เก็บของไม่มีจำกัด สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ โดยระหว่างนั้นจะนำกระเป๋าสี่มิติใบสำรอง หรือที่มักเรียกว่า "กระเป๋าสำรอง" มาใช้แทน ซึ่งกระเป๋าทั้งสองจะมีมิติเชื่อมต่อกัน ของที่เอาใส่ในกระเป๋าใบหนึ่ง จะสามารถนำออกมาจากกระเป๋าอีกใบหนึ่งได้
- เท้า ลักษณะแบนเรียบ สีขาว มีพลังต้านแรงดึงดูด ส่งผลให้เท้าอยู่ลอยจากพื้น 3 มิลลิเมตร เลยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าเพราะไม่มีฝุ่นผงติดเท้า เดิมทีเท้าของโดราเอมอนจะเป็นแบบที่สามารถเดินได้โดยไม่มีเสียงเหมือนกับแมวย่อง แต่ปัจจุบันชำรุดไปแล้ว ทำให้เวลาเดินจึงมีเสียงจากแรงเสียดสีกับอากาศ
- สำหรับเวลาขี่จักรยานต้องใช้ปากจับแฮนด์ และใช้มือถีบที่ปั่นจักรยานแทน เนื่องจากขาหยั่งไม่ถึง
- หาง เป็นสวิตช์ปิด-เปิด ถ้าถูกดึง ทุกอย่างจะหยุดทำงาน โดราเอมอนสามารถดึงหางเพื่อปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ไม่สามารถดึงเพื่อเปิดเองได้ ปัจจุบันคุณสมบัตินี้ถูกยกเลิกไปแล้ว
- สิ่งที่ชอบ-เกลียด
- สิ่งที่ชอบที่สุดคือขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยสามารถกินโดรายากิขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมดและเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้วและเพียงแค่ไม่ได้กินโดรายากิติดต่อกัน 3 วัน ก็แทบจะทนมีชีวิตอยู่ไม่ได้สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอมอนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว "โนราเนียโกะ" มันจึงกลายเป็นของโปรดของเขามาตั้งแต่บัดนั้นเขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่ามีร้านค้าร้านไหนที่ขายโดรายากิลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี้เอง จึงทำให้โดราเอมอนให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก จนถึงกับเคยมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขายขนมมาแล้ว หลังจากที่ทางร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไปนอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอมอนชอบก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอมอนได้กิน ก็บอกว่า อร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้วยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว
- ชื่อเรียกในภาษาต่างๆ
- โดราเอมอนมีการตีพิมพ์ไปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บางครั้งอาจจะมีมีการเรียกโดราเอมอนต่างกันในแต่ละภาษา
- ภาษาจีนกลาง - 小叮当 (Xiǎo Dīng Dāng, เสี่ยวติงตัง ) หรือ 机械猫 (Jīxièmāo) หรือ 机器猫 (Jīqìmāo)
- ภาษาจีนกวางตุ้ง ในฮ่องกง - 多啦A夢 (ตั๊วะหลาเอม่ง) แต่ก็นิยมเรียกว่า 叮噹 (Ding Dong)
- ภาษาเวียดนาม - Đôrêmon
- ภาษาจีนกลาง ในประเทศไต้หวัน - 哆啦A夢 แต่ก็นิยมเรียกว่า 小叮噹
- ภาษาตากาล็อก - Damulag
- ภาษาเกาหลี - ฉบับไพเรทใช้ชื่อว่า 동짜몽 (โดงซาโมง) ส่วนฉบับลิขสิทธิ์ใช้ชื่อว่า 동짜몽 도라에몽 (โดงซาโมง โดราแอโมง)
- ภาษามาเลย์- Doraemon แต่ออกเสียงว่า โดเรมอน (do.re.mon)
- ภาษาไทย - จะเรียกกันติดปากว่า"โดเรม่อน"แต่ถ้าเป็นภาษาเขียนจะเขียนว่า"โดราเอมอน"
- ภาษาลาว - ໂດຣາເອມອນ
นอกจากนี้ในภาษาฮินดี และภาษาอินโดนีเซีย ยังคงเรียก Doraemon ตามต้นฉบับ